เรื่องหมู ๆ สะเทือนถึงก๊วนแบด

โดย ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ ความนิยมของการเล่นแบดมินตันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ขณะเดียวกันต้นทุนการเล่นแบดมินตันเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะต้นทุนลูกแบดมินตันที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นสองเท่าจากปีก่อน อันเนื่องจากโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตปศุสัตว์ของจีนปรับเปลี่ยนหลังการระบาดของโรคแอฟริกันอหิวาต์ (ASF) ในสุกรเมื่อปี 2561 ผลการระบาดของโรค ASF ทำให้ราคาเนื้อหมูในประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก รัฐบาลจีนจึงได้ออกมาตรการเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต พร้อมทั้งปรับโครงสร้างการผลิตสุกรใหม่ให้มีมาตรฐาน บวกกับมาตรการนำเข้าเนื้อสุกรเพื่อควบคุมราคาเนื้อหมูไม่ให้แพงจนเกินไป ราคาเนื้อสุกรปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหลังกำลังการผลิตหมูของจีนกลับมา ทำให้ผู้บริโภคชาวจีนหันกลับมาบริโภคเนื้อหมูมากขึ้น และการเพิ่มขึ้นนี้ส่งผลให้อุปทานเป็ดและห่านลดลง The

โอกาสของรัฐบาลใหม่ ปกป้องเกษตรกรไทยจากแรงกดดันมาตรการภาษีทรัมป์

โดย ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถานการณ์หมูในประเทศไทยปรับตัวลดลงรุนแรงมากในช่วงต้นเดือนกันยายน 2568 ราคาหน้าฟาร์มปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 หลังที่มีข่าวราคาเนื้อหมูแพงในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประกาศรายงานข้อมูลราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์ม ณ วันที่ 15 กันยายน 2568 เหลือ 52 –

ภาษี 19% ที่แลกด้วยการสังเวยเกษตรกรรายย่อยเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต

โดย ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ผลเจรจาเบื้องต้นกรณีภาษีทรัมป์ ทีมเจรจาเพิ่มเงื่อนไข อนุญาตให้นำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐฯ 1% ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 3 ล้านตัน กากถั่วเหลือง 3 ล้านตัน และกากข้าวโพดอีก 1 ล้านตัน เพื่อแลกเปลี่ยนกับมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ จาก

อนาคตของหมูไทย 2568 คนไทยต้องกินหมูแพง แต่รายเล็กอาจไปไม่รอด

เรื่องโดย ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในปี 2568 สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรประมาณการอุปสงค์เนื้อสุกรไว้ที่ 1.585 ล้านตัน ประมาณการอุปทานไว้ที่ 1.60 ล้านตัน หรือประมาณ 21.37 ล้านตัว ลดลงจากปี 2567 ประมาณ 4

เหตุที่ภาครัฐดูแคลนภาคปศุสัตว์โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร

การดูแคลนภาคปศุสัตว์โดยเฉพาะเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรที่มีส่วนสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้สะท้อนผ่านอัตราการเจริญเติบโตของ GDP ในปี 2566 เพียงแค่ 1.8% ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังแถลงเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 ที่ผ่านมา สวนทางกับการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ระบุไว้ตอนต้นปี 2566 ว่าประเทศไทยจะมีการขยายตัว 2.4% มากกว่าความเป็นจริงไป 0.6% การคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พลาดเป้า ทำให้หลายฝ่ายเห็นแย้งกับการดำเนินนโยบายของ