ฤาว่า…รัฐยินดีที่เห็นคนเลี้ยงหมูขาดทุน?

เรื่องโดย ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หลังจากราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มของไทยที่เคยสูงสุดในภูมิภาคเมื่อปี 2565 ผลผลิตขายเมื่อช่วงปลายปี ณ ราคา 100 บาทต่อกิโลกรัม ยังพอมีกำไรให้คนเลี้ยงหมูไทยได้กลับมาเลี้ยงรอบใหม่ แต่ในช่วงเวลานี้ ราคาหมูไทยกลับต่ำสุดเมื่อเทียบกับรอบบ้าน (ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2566

ฝากรัฐบาลชุดใหม่…โปรดช่วยต่อลมหายใจชาวหมูรายย่อย

เรื่องโดย ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตลอดช่วงหน้าร้อนนี้ความหวังว่าราคาหมูหน้าฟาร์มจะดีขึ้นบ้างคงหมดหวัง สถานการณ์ตอนนี้ของชาวหมูเรียกได้ว่า “น้ำตาตก” เนื่องจากราคาขายหมูหน้าฟาร์มอ้างอิงเขตภาคตะวันตกอยู่ที่ 70 บาท/กก. ไม่ได้สะท้อนถึงต้นทุนการผลิตที่คงตัวในระดับสูงกว่า 90 บาท/กิโลกรัม แต่ก็ยังดีที่แนวโน้มต้นทุนที่เริ่มลดลง (ภาพที่ 1) ผลของการปล่อยให้มีการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อน ทางสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ

หมูหลุม…หนึ่งทางรอดของเกษตรกรรายย่อย

โดย ผศ.ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่ผ่านมา ได้มีกฎกระทรวงออกมาบังคับการทำมาตรฐานฟาร์มหมู GAP (การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกร ตามพระราชบัญญัติมาตรฐานสินค้าเกษตร พ.ศ. 2551)โดยกฎกระทรวงนี้มีผลบังคับใช้กับฟาร์มหมูขนาดกลางและขนาดใหญ่ แม้ว่าผู้เลี้ยงจะทราบดีถึงการบังคับทำมาตรฐานฟาร์ม GAP ก่อนหน้านี้กรมปศุสัตว์ก็เดินหน้ามาตรฐานฟาร์มมาพักใหญ่

อากาศแปรปรวนเด้ง 4 เหตุต้นทุนหมูแพง ขอผู้บริโภคโปรดเห็นใจ

เรื่องโดย ดร.สุวรรณา สายรวมญาติ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2565 คณะอนุกรรมการต้นทุน Pig Board รายงานต้นทุนการผลิตสุกรขุน 98.81 บาท/กก. นับว่าเป็นต้นทุนการผลิตสุกรขุนที่สูงเป็นประวัติการณ์เรียกได้ว่าฟาร์มต้องคุมขมับ เพราะราคาสุกรขุนหน้าฟาร์มมีชีวิตตามประกาศของสมาคมฯ คือ 96-98

ทางออกหมูแพง “ผู้ผลิตอยู่รอด ผู้บริโภคอยู่ได้

ทางออกหมูแพงที่ “ผู้ผลิตอยู่รอด ผู้บริโภคอยู่ได้” โดย สุวรรณา สายรวมญาติ ภาควิชาเศรษฐศาสตร์เกษตรและทรัพยากร คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ปัญหาโรคระบาดไวรัส ASF บานปลายจนทำให้ปริมาณหมูไทยลดลงจาก 20 ล้านตัว เหลือ 12.5 ล้านตัว หรืออาจจะมากกว่านั้น เพราะมีการคาดการณ์ว่าความเสียหาย ณ