เราถวายสิ่งที่ดีที่สุด จริงหรือ?


  • อาหารคาวหวานที่ผ่านการปรุงรสอย่างสุดฝีมือเพื่อถวายพระสงฆ์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโซเดียมและน้ำตาล นำมาซึ่ง 5 โรคที่พบมากที่สุดในกลุ่มพระสงฆ์ – โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไตวาย และโรคข้อเข่าเสื่อม
  • เราในฐานะผู้ถวายควรเลือกอาหารที่คำนึงถึงสุขภาพพระสงฆ์มากกว่ารสชาติอร่อยแต่เพียงอย่างเดียว

ที่มาของบทความนี้เกินวันที่เรานำของไปใส่บาตร เราสังเกตเห็นอาหารทั้งคาวหวานที่ถูกตระเตรียมไว้เป็นอย่างดีเพื่อรอประเคนแด่พระสงฆ์ เต็มไปด้วยของน่ากินทั้งนั้น กลืนน้ำลายแทบไม่ทัน เราว่าหลายคนก็อาจจะเป็นหมือนเรา 

ย้อนกลับไปในวัยเด็กภาพที่เราเห็นจนชินตาตั้งแต่เด็กคือ ทุกวันพระ ชาวบ้านจำนวนหนึ่งจะหิ้วปิ่นโตมาที่วัด

ในปิ่นโตที่หิ้วกันมาก็จะมีข้าวสวยหุกสุกร้อนๆ ที่ตักมาจากปากหม้อ อาหารคาวอย่างน้อย 1 อย่าง ขนมหวานและ/หรือ ผลไม้ 1 อย่าง และเครื่องดื่มอย่างน้อย 1 ขวด  

หากเป็นผู้มีอายุหน่อยก็จะตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมอาหารเหล่านี้ ขณะที่บางคนก็ตื่นเช้าไปซื้ออาหารคาวหวานเหล่านี้มาใส่บาตร

เมื่อมาถึงศาลาการเปรียญ อาหารทั้งหลายถูกถ่ายจากปิ่นโตมาลงในภาชนะที่ทางวัดได้จัดเตรียมไว้ชามแล้วชามเล่า มากขึ้นเรื่อยๆ มากเสียจนเรียกได้ว่าล้น ไม่ว่าคนจะมาทำบุญมากหรือน้อย 

หลังเสร็จสิ้นพิธีกรรมต่างๆ อาหารเหล่านี้จะถูกแจกจ่ายให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แต่ก็ยังมีอาหารเหลือกลายเป็นอาหารที่ถูกทิ้งในที่สุด แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่เราเขียนบทความนี้ 

อ่าวแล้วที่ร่ายมาคืออะไรใช่มะ มา…มาอ่านต่อ

ประเด็นที่เราจะเอ่ยถึงคือ อาหารที่เราถวายพระกันทุกวันนี้ ดีที่สุดจริงหรือ?

หากเอาในเรื่องของความอร่อย คงไม่มีใครแย้ง แต่ถ้าเรื่องภัยเงียบที่มากับอาหารเพื่อนๆ คงถึงบางอ้อ

ใช่แล้ว เรากำลังพูดถึงอาหารคาวหวานที่ผ่านการปรุงรสอย่างสุดฝีมือเพื่อถวายพระสงฆ์ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโซเดียมและน้ำตาล นำมาซึ่ง 5 โรคที่พบมากที่สุดในกลุ่มพระสงฆ์ – โรคไขมันในเลือดสูง โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคไตวาย และโรคข้อเข่าเสื่อม 

ที่สำคัญแนวโน้มของการป่วยเป็นโรคเบาหวานของพระสงฆ์ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด

ภาพจาก bangkokbiznews.com

คงเดาต่อได้ไม่ยากว่าที่มาของโรคกลุ่ม NCDs ทั้ง 5 ด้านบนมาจากไหน 

ใช่ค่ะ เหตุหลักๆมาจาก พฤติกรรมการกิน

เราทราบกันดีว่า พระสงฆ์ไม่สามารถปรุงอาหารเองได้เช่นเรา และท่านจะเลือกฉันก็ไม่ได้อีกเช่นกัน ญาติโยมนำอะไรมาถวายก็ต้องฉันไปตามนั้น จึงเป็นเรื่องยากที่จะควบคุม

ตอนเราคิดว่าเราจะนำอะไรไปใส่บาตร… เรามักจะอาหารที่เราชอบ อาหารที่อร่อย รสชาติถูกปาก แต่…เราลืมนึกถึงสุขภาพ อาหารที่เราเลือกจึงมาพร้อมกับภัยเงียบที่เราประเคนให้พระสงฆ์  

เมนูที่เราเห็นประจำคือ แกงเขียวหวาน แกงไก่กะทิ เอ้อๆ เกือบลืมอีกหนึ่งเมนู ไข่ลูกเขย ก็จะให้ถวายไข่ต้มง่ายๆ ได้อย่างไร ต้องทอดสักหน่อย ลาดซอสมะขามปรุงรสชุ่มๆ โรยพริกแห้งสักเม็ด เป็นอันเด็ด

หากเป็นขนม ที่เห็นแทบทุกครั้งคือ ขนมตระกูลทองทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เม็ดขนุน

เห็นภาพมั้ย ภาพของ แป้ง น้ำตาล น้ำมัน เกลือ กะทิ ที่เราประเคนแด่พระสงฆ์ แน่นอนอาหารเหล่านี้ทำให้เรากินมากกว่าความจำเป็นของร่างกาย

ดังนั้น เรา…ในฐานะที่เป็นผู้ถวาย ควรจะเลือกตั้งแต่ต้น เลือกให้เหมาะ เลือกให้ดีต่อสุขภาพ

เพราะทุกครั้งที่เราใส่บาตร หนึ่งในคำอธิษฐานที่เรามักจะขอให้เราสุขภาพดี ไม่เจ็บไม่ป่วย แต่เรากลับลืมนึกถึงสุขภาพของผู้รับ

ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันปฏิวัติการใส่บาตร ใส่ของที่ดีต่อสุขภาพพระ ไม่ใช่ถูกปากเรา

***สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการกินในมุมมองเศรษฐศาสตร์และพฤติกรรมของเราและคนรอบสามารถอ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ www.eatecon.com

ที่มา

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/802855

https://gmlive.com/Culture-Monk-Hope-คำอธิษฐาน

Photo by Arisa Chattasa on Unsplash

Leave a Reply