ได้เวลาบอกลาน้ำหวานไดเอ็ท

  • ข่าวร้ายสำหรับสาวๆ ที่ดื่มเครื่องดื่มประเภทไดเอ็ททุกวัน คุณได้เพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และโรคหัวใจขาดเลือด (Heart Attacks)

ด้วยเหตุนี้ ทางนักวิจัยจึงดูไปถึงวิถีการใช้ชีวิตว่าสาวๆ เหล่านี้กินหรือดื่มอะไรกันบ้าง จนพบปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงให้กับโรคทั้งสองนี้แหละ

เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าว CNN ออกบทความอ้างถึงงานวิจัยของ the American Heart Association and American Stroke Association ที่ช่วยยืนยันภัยเงียบของเครื่องดื่มพวกไดเอ็ททั้งหลายว่ามีผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) และโรคหัวใจขาดเลือด (Heart Attacks) อันเนื่องจากการใช้สารสังเคราะห์ทดแทนความหวาน

เหตุมันเกิดจากข้อมูลของผู้หญิงชาวอเมริกันมากกว่า 80,000 คนที่เคยเข้ารับการตรวจที่ the Women’s Health Initiative มีผู้หญิงเชื้อสายแอฟริกัน-อเมริกันกลุ่มหนึ่งที่ไม่เคยมีประวัติใดๆเกี่ยวกับโรคหัวใจ เบาหวาน หรืออยู่ในภาวะโรคอ้วน แต่เป็นเธอเหล่านี้กลับมีภาวะเสี่ยงของโรคทั้งสองเพิ่มขึ้น – Stroke 31% และ Heart Attacks  29%

โดยสาวๆ เหล่านี้ดื่มน้ำอัดลมกลุ่มที่ใส่สารสังเคราะห์ทดแทนความหวานมากกว่า 12 ออนส์ต่อวันขึ้นไป หรือง่ายๆคือ ดื่มน้ำอัดลมไดเอ็ทมากกว่า 1 กระป๋องต่อวัน

ซึ่งผลการศึกษานี้ ได้รับการยืนยันจาก Dr. Ralph Sacco ประธาน American Academy of Neurology ว่าสารสังเคราะห์ทดแทนความหวานเพิ่มความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดต่างๆ จริง 

นี่คือการยืนยันอีกเสี่ยงจากฝั่งการวิจัยด้านประสาทวิทยา

Related Article: Nearly half of US adults have cardiovascular disease, study says

หากถามต่อว่าแล้วสาวๆกลุ่มอื่นนั้นมีความเสี่ยงเช่นเดียวกันหรือไม่ จากงานวิจัยนี้ก็คงตอบว่าไม่ทั้งหมด 

เพราะสาวผิวขาวมีความเสี่ยงเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจมากกว่า 130% ซึ่งก็นับว่าน่ากลัวไม่แพ้กัน

จึงเกิดคำถามต่อมาว่า แล้วชาวเอเชียอย่างเราหล่ะ จะมีความเสี่ยงมากน้อยอย่างไร ?

ณ ตอนนี้ยังไม่มีงานวิจัยทางฝั่งเอเซียออกมาก แต่ก็จะกว่าถ้าเราไม่ต้องไปเป็นกรณีศึกษาให้กับงานวิจัยลักษณะนี้ เพื่อนๆ ว่าจริงมั้ย

ย้อนกลับมาไปงานวิจัยต่อ ถามต่อว่า แล้วมีกลุ่มอื่นเสี่ยงอีกหรือไม่… แน่นอน มันไม่จบแค่นั้นหรอก เพราะข้อมูลมีมากว่า 80,000 ราย 

งานวิจัยยังพบอีกว่า ผู้หญิงที่เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดมากกว่าผู้หญิงกลุ่มอื่นอันเนื่องมาจากฮอร์โมนในร่างกายนั้นทำงานไม่เหมือนเดิม

Dr.Keri Peterson ยังสันนิษฐานอีกว่า การดื่มเครื่องดื่มกลุ่มนี้น่าจะมีผลต่อความดันโลหิตและระดับน้ำตาลด้วย แต่ก็ยังต้องวินิจัยและวิจัยกันต่อ

แม้ว่าจะมีการยืนยันว่าการเครื่องดื่มไดเอ็ทเหล่านี้จะช่วยลดการบริโภคน้ำตาล แต่เป็นแค่ระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น สำหรับผู้ใหญ่ แต่ไม่แนะนำสำหรับเด็ก 

เมื่อเรามองไปรอบตัว เราจะเห็นสื่อโฆษณาชวนซื้อกลุ่มเครื่องดื่มไดเอ็ทกระจายอยู่ทั่วไป แล้วจะมีเด็กสักกี่รายที่รู้เท่ากันสื่อการตลาดพวกนี้ 

อย่างที่เราเคยเขียนบทความไว้ก่อนหน้านี้ ว่าปัญหาสำคัญไม่ได้อยู่ที่เราจะลดการกินน้ำตาลตอนนี้ แต่การดื่มเครื่องดื่มไดเอ็ท ทำให้เรายังคงติดรสหวานก็ยากที่เราจะลดการกินน้ำตาลได้อย่างแท้จริง

จากข้อมูลผลประกอบการของบริษัท อิชิตัน ที่มียอดจำหน่ายชาเขียวลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็น่าจะชี้ให้เราเห็นได้ว่า ตอนนี้คนไทยลดการดื่มชาเขียวไปพอสมควร ซึ่งอาจจะนึกไปต่อได้ว่า คนไทยดื่มน้ำหวานลดลงด้วย แต่ข้อสันนิษฐานนี้อาจจะไม่เป็นจริงก็ได้ อาจจะเป็นแค่ลดดื่มจำพวกชาเขียว แล้วไปเพิ่มการดื่มชานมไข่มุกแทนก็เป็นได้

ภาพจากเพจ Positioning Magazine Online

เป็นที่น่าเสียดายว่าข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เปิดเผยให้เราศึกษากันมากนัก แม้บริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ก็ยังอ้างข้องมูลไม่เหมือนกัน นักวิจัยอย่างเราก็คงได้แต่ตั้งข้อสังเกต

ปล. เราขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า เราไม่เคยห้ามเรื่องกิน เพราะเราก็เป็นคนชอบกิน แต่เราอยากให้เพื่อนๆ เลือกกิน เพราะกินทั้งที…ต้องดี ไม่งั้น…อย่ากิน!!!

***สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการกินในมุมมองเศรษฐศาสตร์และพฤติกรรมของเราและคนรอบสามารถอ่านบทความอื่นๆเพิ่มเติมได้ที่ www.eatecon.com

#EatEcon #BubleTea #SugaryDrink #กินแต่พอดี

ที่มา

[1] https://edition-m.cnn.com/2019/02/14/health/diet-soda-women-stroke-heart-attack/index.html?utm_medium=social&utm_content=2019-02-17T03%3A30%3A14&utm_source=fbCNN&utm_term=link&r=http%3A%2F%2Fm.facebook.com

Photo by Paul Hanaoka on Unsplash

Leave a Reply